นอริช ซิตี้ 2 – 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ความหวังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการคว้าตำแหน่งรองแชมป์ในพรีเมียร์ชิพ โดนทำลายลงไปแล้ว เมื่อพวกเขาบุกไปพ่าย 2-0 ต่อ นอริช ซิตี้ ที่ แคร์โรว์ โร้ด เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ (เวลาอังกฤษ)
ชัยชนะ 1-0 ของอาร์เซนอล ต่อมิดเดิ้ลสโบรซ์ ก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาหนีห่างปีศาจแดง ไป 3 คะแนน แต่มีเหตุผลเพียงน้อยนิดที่จะเชื่อว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่สามารถปิดช่วงห่างนั้นลงได้ในการเจอกับทีมที่กำลังหนีการตกชั้นอย่างนอริช
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ออกมาอย่างที่คิด เมื่อประตูจากดีน แอชตัน และ ลีออง แม็คเคนซี่ ช่วยให้เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อนได้รับชัยชนะที่น่าแปลกใจ เหนือทีมผู้เข้ารองรอบชนะเลิศเอฟเอ คัพ
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำตามที่พูดเอาไว้ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากเกมที่เสมอแบบไร้สกอร์กับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว
ที่จริงแล้ว นายใหญ่ของปีศาจแดง สับไพ่ในกองหลายครั้งทีเดียว ก่อนจะเปลี่ยนแปลงผู้เล่นไม่น้อยกว่า 5 ตำแหน่งในทีมที่ไม่สามารถทำประตูทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส ได้ โดยมี กาเบรียล ไฮน์เซ่, ฟิล เนวิลล์, เคล็บแบร์สัน, หลุยส์ ซาฮา และ อลัน สมิธ ลงมาแทน จอห์น โอเชีย, ไรอัน กิ๊กส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, รุด ฟาน นิสเตลรอย และ เวย์น รูนี่ย์
ผู้เล่นที่เข้ามาใหม่ทั้งหมดนี้ ยกเว้น ไฮน์เซ่ ได้ลงเล่นในทีมสำรองของสโมสรเมื่อกลางสัปดาห์
ไนเจล เวิร์ทธิงตัน นายใหญ่ของเจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อน ทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในทีมที่พ่ายแพ้มา 5 นัดติดต่อกัน โดย ยูสเซฟ ซาฟรี, โธมัส เฮลเว็ค และ ดาร์เรน ฮัคเคอร์บี้ ได้กลับมาเป็นตัวจริง ในขณะที่ผู้เล่นที่ยืมตัวมาจากอาร์เซนอล มีชื่ออยู่บนม้านั่งข้างสนาม
ปีศาจแดง มาเยือนแคร์โรว์ โร้ด เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ในครั้งนั้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1995 ปีศาจแดงคว้า 3 คะแนนเต็มจากชัยชนะ 2-0
นอริช ซิตี้ ดูเหมือนจะเป็นทีมที่หลอกหลอนสำหรับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในช่วงเริ่มต้นคุมทีมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด การพบกัน 8 ครั้งแรกในลีกกับเจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อน หลังจากที่เขาออกจากอเบอร์ดีน มาปีศาจแดง ชนะเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยเสมอ 1 ครั้ง และนอริช ชนะถึง 6 ครั้ง
ปีศาจแดง ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อแดงและกางเกงขาวตามถนัด เริ่มเขี่ยบอลในช่วงเย็นที่มืดครึ้ม หนาวเย็น และไร้ชีวิตชีวา ที่นอร์ฟอล์ค
เสียงร้องเพลงของ นอริช อันเลื่องชื่อ “On the ball, City” ก้องไปทั่วสนามเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ในช่วงเริ่มต้นไม่กี่นาทีแรกของเกม เมื่อแฟนบอลทำอย่างดีที่สุดเพื่อกระตุ้นทีมของพวกเขาที่กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น
และมันก็ได้ผลในระดับหนึ่ง เมื่อเจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อนเริ่มเกมได้อย่างมีชีวิตชีวา คู่ศูนย์หน้า ดีน แอชตัน ซึ่งเป็นอดีตผู้เล่นครูว์ อเล็กซานดร้า และ ลีออง แม็คเคนซี่ สร้างความปั่นป่วนและอันตราย เมื่อทีมเจ้าบ้านเดินเกมอยู่รอบกรอบเขตโทษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นอริช เดินหน้าไล่บอลทุกจังหวะ และความกระตือรือร้นของพวกเขาในช่วงแรกป้องกันไม่ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งเกมขึ้นมาได้
การกลับมาสู่ทีมของหลุยส์ ซาฮา จบลงหลังจากเล่นไปได้เพียง 20 นาที เมื่อเขาเดินช้าๆ ออกจากสนาม เพื่อรับการตรวจข้างสนามจากนักกายภาพบำบัด โรเบิร์ต สไวร์ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทีมก็ส่งสัญญาณไปที่ม้านั่งข้างสนามว่าเขาเล่นต่อไม่ไหว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นคนที่ได้ลงมาแทนกองหน้าชาวฝรั่งเศสผู้โชคร้าย
เกมผ่านไป 30 นาทีก่อนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะรวมตัวกันสร้างโอกาสบุกครั้งแรกในเกม เคล็บแบร์สัน จ่ายบอลให้ โรนัลโด้ ทางฝั่งขวาในแดนของ นอริช ปีกดาวรุ่งโปรตุกีสยกบอลอย่างฉลาดข้ามกองหลัง อดัม ดรูรี่ และไปถึงหัวของ อลัน สมิธ แต่กองหน้าผู้นี้ไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสงามครั้งแรกของทีมให้เป็นประตูได้
นอริช ซึ่งหนุนหลังโดยแฟนบอลเสียงดังของพวกเขา เขย่าขวัญ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงครึ่งแรกด้วยการผสมผสานระหว่างความพยายามอย่างไม่ย่อท้อ และการเข้าสกัดถอนรากถอนโคนแบบโบราณ แต่ละทีมมีโอกาสเพียงเล็กน้อย แต่ นอริช สามารถเล่นได้ดีใน 45 นาทีแรก
ทั้ง 2 ทีมมีการเปลี่ยนตัวระหว่างพักครึ่ง ควินตัน ฟอร์จูน ถูกถอดออกจากทีม และแทนที่ด้วย เวย์น รูนี่ย์ ในขณะที่ นอริช เปลี่ยนเอาเดวิด เบนท์ลี่ย์ ลงมาแทน เกรแฮม สจวร์ต
ในไม่ช้า รูนี่ย์ ก็เป็นเหยื่อการล้อเลียนของแฟนบอลใน แคร์โรว์ โร้ด แต่เขาดูไม่กังวลกับเสียงโห่ฮาเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม เขาถูกจดชื่อจนได้ในนาที่ที่ 54 หลังจากการเข้าสกัดที่รุนแรงเกินไปใส่กองหลัง นอริช ลูกฟรีคิกที่ได้จากเหตุการณ์นี้นำมาซึ่งการลงโทษที่ร้ายแรงต่อทีม เมื่อฟรีคิกที่โยนมาอย่างดีของ เบนท์ลี่ย์ ถูกโหม่งโดย แอชตัน ผ่านมือ ทิม โฮเวิร์ด เข้าไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามอย่างดีที่สุดในการตอบโต้ทันที รูนี่ย์ พาบอลเข้าหาประตู แต่ถูกแย่งไปก่อนที่จะได้ยิง และ โรนัลโด้ โยนบอลเลยข้ามคานออกไป
เคล็บแบร์สัน ถูกเปลี่ยนออกในนาทีที่ 63 โดยแทนที่ด้วย รุด ฟาน นิสเตลรอย เมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เลือกที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งในการยิงประตู
ทีมปีศาจแดง ต้องการประตูอย่างยิ่ง แต่เพียง 3 นาทีหลังจาก รุด ลงสนาม ความต้องการนั้นก็เพิ่มเป็น 2 เท่า ดาร์เรน ฮัคเคอร์บี้ เป็นผู้เริ่มทำเกมซึ่งนำไปสู่ประตูที่ 2 ของ นอริช ก่อนที่จะจ่ายบอลไปข้างหน้าให้ แอชตัน แล้วผู้ทำประตูแรกในเกมนี้ก็จ่ายบอลเข้าไปตรงกลาง แม็คเคนซี่ ที่ไม่มีใครประกบก็ยิงผ่าน ทิม โฮเวิร์ด เข้าไป จบเกม นอริช ซิตี้ เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 2 – 0 (คำบรรยายโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
นอริช ซิตี้
โรเบิร์ต กรีน 1
อดัม ดรูรี่ 3
เคร็ก เฟลมมิ่ง 5
เจสัน แช็คเคลล์ 24
เดเมี่ยน ฟรองซิส 20
โธมัส เฮลเว็ค 26
ยูสเซฟ ซาฟรี 15
เกรแฮม สจวร์ต 4
ดีน แอชตัน 36 ( น. 55)
ดาร์เรน ฮัคเคอร์บี้ 6
ลีออง แม็คเคนซี่ 14 ( น. 67) ( น. 66)

สำรอง
ดาร์เรน วอร์ด 21
แกรี่ โดเฮอร์ตี้ 27
แมตติแอส จอนสัน 9 น. 86 ดาร์เรน ฮัคเคอร์บี้ 6
เดวิด เบนท์ลี่ย์ 10 ( น. 83) น. 45 เกรแฮม สจวร์ต 4
มาธิแอส สเวนส์สัน 19 น. 84 ดีน แอชตัน 36
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ทิม โฮเวิร์ด 1
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
ฟิล เนวิลล์ 3
แกรี่ เนวิลล์ 2
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
ควินตัน ฟอร์จูน 25
เคล็บแบร์สัน 15
พอล สโคลส์ 18 ( น. 68)
หลุยส์ ซาฮา 9
อลัน สมิธ 14
สำรอง
รอย คาร์โรลล์ 13
จอห์น โอเชีย 22
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 น. 22 หลุยส์ ซาฮา 9
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 54) น. 45 ควินตัน ฟอร์จูน 25
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10 น. 63 เคล็บแบร์สัน 15
สถิติของเกม
นอริช ซิตี้ ประตู 2, ลูกยิงตรงกรอบ 3, ลูกยิงหลุดกรอบ 2, ลูกยิงโดนบล็อค 2, เตะมุม 3, ฟาวล์ 19, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 2, การครองบอล 37%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลูกยิงตรงกรอบ 5, ลูกยิงหลุดกรอบ 7, ลูกยิงโดนบล็อค 4, เตะมุม 4, ฟาวล์ 18, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 2, การครองบอล 63%
คะแนนความสามารถ
นอริช ซิตี้ โรเบิร์ต กรีน 7, โธมัส เฮลเว็ค 7, เคร็ก เฟลมมิ่ง 7, เจสัน แช็คเคลล์ 7, อดัม ดรูรี่ 8, เกรแฮม สจวร์ต 5, เดเมี่ยน ฟรองซิส 7, ยูสเซฟ ซาฟรี 7, ดาร์เรน ฮัคเคอร์บี้ 7, ลีออง แม็คเคนซี่ 8, ดีน แอชตัน 9, เดวิด เบนท์ลี่ย์ (สำรอง) 7, แมตติแอส จอนสัน (สำรอง) 6, มาธิแอส สเวนส์สัน (สำรอง) 6
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทิม โฮเวิร์ด 6, แกรี่ เนวิลล์ 6, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6, มิเกล ซิลแวสตร์ 6, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 6, เคล็บแบร์สัน 6, พอล สโคลส์ 7, ฟิล เนวิลล์ 6, ควินตัน ฟอร์จูน 6, หลุยส์ ซาฮา 6, อลัน สมิธ 6, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (สำรอง) 6, เวย์น รูนี่ย์ (สำรอง) 6, รุด ฟาน นิสเตลรอย (สำรอง) 6
Por

Related Posts

Copyright © 2025 Egocha. All Right Reserved.